ร่างกายมนุษย์และธาตุทั้ง 5

มนุษย์มีร่างกายเปรียบได้เหมือนกับโลก ที่ปกคลุมด้วยเส้นปราน ส่งผลให้พลังงานที่รับผิดชอบต่อชีวิตของเราสามารถเคลื่อนไหวได้ มนุษย์ไม่สามารถผลิตพลังงานพื้นฐานได้ด้วยตัวเองเพียงลำพัง ต้องอาศัยความร่วมมือของพลังงานที่มีกำเนิดมาจากจักรวาล เส้นปรานเหล่านี้ที่มีบทบาทสำคัญในการฝังเข็ม ประกอบไปด้วยสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นเครื่องรับ และเครื่องส่งในที่นี้คือจักรวาล และเสาอากาศคือโลก สิ่งมีชีวิตทั้งหมดล้วนแต่มีเครื่องรับ สิ่งมีชีวิตต่าง ๆ แตกต่างกันตรงที่การมีวิธีแสดงปฏิกิริยามี่แตกต่างกันต่อพลังงานที่ได้รับ และเนื่องจากพลังงานต่าง ๆ มีอิทธิพลต่อดครงสร้างเซลล์ในวิธีที่แตกต่างกัน จึงไม่เพียงแต่ทำให้คนเราเหมือนกันเท่านั้น แต่ยังทำให้คนเราแตกต่างกันอีกด้วย ดังนั้นในแต่ละคนจึงมีฮวงจุ้ยที่แตกต่างกันและมีโชคชะตาที่เป็นของตนเอง
คนจีนมีทัศนะว่าโลกนี้ประกอบไปด้วยห้าธาตุ คือ ธาตุไม้ ธาตุไฟ ธาตุดิน ธาตุทอง และธาตุน้ำ ลม (เฟิงหรือฮวง) และน้ำ (สุ่ยหรือจุ้ย) เป็นตัวนำพาธาตุเหล่านี้ และธาตุเหล่านี้ยังขึ้นต่อการหมุนเวียนภายในอีกด้วย ดังนี้
ธาตุไม้หล่อเลี้ยงธาตุไฟ
ธาตุไฟเปลี่ยนเป็นขึ้เถ้า ซึ่งเปลี่ยนเป็นธาตุดิน
ธาตุดินบรรจุด้วยธาตุทอง
ธาตุทองก่อเกิดธาตุน้ำ
ธาตุน้ำบำรุงเลี้ยงธาตุไม้

วัฏจักรที่เป็นกระบวนการแห่งความกลมกลืนตามธรรมชาตินี้พบได้ในรูปแบบที่เป็นบวกของมัน อย่างไรก็ตาม ยังมีรูปแบบที่เป็นลบอีกด้วย ดังนี้
ธาตุไม้ชำแรกธาตุดิน
ธาตุดินกั้นธาตุน้ำ
ธาตุน้ำดับธาตุไฟ
ธาตุไฟหลอมธาตุทอง
ธาตุทองตัดธาตุไม้

เรื่องของคำสอนเกี่ยวกับห้าธาตุนี้ได้วางรากฐานบนความรู้เกี่ยวกับหยินและหยาง ซึ่งก่อให้เกิดโลกแห่งความตรงกันข้ามที่เสริมกันอย่างลงตัว คำสอนที่ว่านี้ได้ระบุว่าหยินคือความมืด โลก ดวงจันทร์ ผู้หญิง ความสงบนิ่ง ความชื้น ความเย็น กลางคืน ด้านลบ เป็นต้น ส่วนในทางตรงกันข้าม หยางก็เป็นสัญลักษณ์ของความสว่าง ท้องฟ้า ดวงอาทิตย์ ผู้ชาย ความเคลื่อนไหว ความแห้ง ความอบอุ่น ความสุข กลางวัน ด้านบวก เป็นต้น คำว่า “ด้านลบ” ในที่นี้ไม่ได้หมายถึง “ด้านเลว” เช่นเดียวกับ “ด้านบวก” ก็ไม่ได้บ่งชี้ว่าเป็น “สิ่งดี” แต่เป้าหมายคือ การค้นหาความสมดุลระหว่างหยินและหยาง ระหว่างด้านลบและด้านบวก เพื่อให้เกิดผลลัพธ์เป็นความกลมกลืน
ในแต่ละคนจะมีธาตุอยู่หนึ่งธาตุในจำนวนห้าธาตุเป็นธาตุประจำกาย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเวลาเกิดของแต่ละคน ในการหาธาตุประจำตัวนั้น เราต้องรู้เลขประจำธาตุก่อน ดังนี้
ธาตุไม้ 1 2
ธาตุไฟ 3 4
ธาตุดิน 5 6
ธาตุทอง 7 8
ธาตุน้ำ 9 0


วิธีการคำนวณหาเลขประจำธาตุ ให้คำนวณตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
ผู้ชายกับผู้หญิงจะมีวิธีการที่แตกต่างกัน ดังนี้
ผู้ชาย ให้เอาเลขสองตัวสุดท้ายของปีเกิดลบออกจาก 100 แล้วหารด้วยเก้า ผลหารมักได้เลขเศษ ถ้าเป็นเช่นนั้นให้ใช้เลขเศษที่ได้ ถ้าผลลัพธ์จากการหารเป็นเลขที่ลงตัว ให้ใช้เลข 9 หรือ 0 สำหรับผู้เกิดก่อนวันที่ 4 หรือ 5 เดือนกุมภาพันธ์ของปีใด ให้ใช้เลขสองตัวสุดท้ายของปีก่อนหน้านั้น และผู้ที่เกิดตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นไป ให้ลบออกจาก 99 แทน
ผู้หญิง เอาเลขสองตัวสุดท้ายของปีเกิดตั้ง แล้วลบด้วย 4 จากกนั้นหารด้วย 9 ผลหารมักได้เป็นเลขเศษ ถ้าเป็นเช่นนั้นให้ใช้เลขเศษที่ได้ แต่ถ้าผลลัพธ์จากการหารเป็นเลขที่ลงตัว ให้ใช้เลข 9 หรือ 0 สำหรับผู้ที่เกิดก่อนวันที่ 4 หรือ 5 เดือนกุมภาพันธ์ของปีใด ให้ใช้เลขสองตัวสุดท้ายของปีก่อนหน้านั้น และผู้ที่เกิดตั้งแต่ปี 2004 เป็นต้นไป ให้ลบด้วยเลข 3

ต่อไปนี้เป็นแนวทางทั่วไปสำหรับการแปลความหมายธาตุประจำตัวในด้านบุคลิกภาพส่วนตัว
จงคิดไว้เสมอว่าธรรมชาติของมนุษย์ทุกคนย่อมมีทั้งด้านบวกและด้านลบ ดังนี้
ธาตุไม้ (1,2) เป็นคนดี เข้าใจความรู้สึกของคนอื่น เต็มใจช่วยเหลือ ซื่อสัตย์ เปิดเผย มีหัวใที่เปี่ยมไปด้วยความรัก แต่ก็รักตัวเองด้วย อิจฉาริษยา และอ่อนไหวจนเกินไป
ธาตุไฟ (3,4) เป็นคนสุภาพ ใจกว้าง ซื่อสัตย์ มองไปข้างหน้า แต่อารมณ์กวัดแกว่ง เต็มไปด้วยความสงสัยและวิพากษ์วิจารณ์ตัวเอง ใครก็ควบคุมไม่ได้ ขาดความทรหด จุกจิกจู้จี้ ชอบอวดรู้ และหัวแข็ง
ธาตุดิน (5,6) เป็นคนที่เชื่อถือได้ ซื่อสัตย์ เห็นอกเห็นใจคนอื่น เอาจริงเอาจัง เคร่งศาสนา อดทน ตรงไปตรงมา ไว้วางใจได้ อนุรักษ์นิยม ไม่เห็นแก่ตัว แต่ก็เชื่องช้า ไม่ยืดหยุ่น ต้องการความสะดวกสบาย ละโมบกำไร เย่อหยิ่งยโส โน้มน้าวจูงใจได้ยาก
ธาตุทอง (7,8) มีความยุติธรรม กล้าหาญอดกลั้น รู้จักกาลเทศะ เต็มใจจะตัดสินใจ แต่ก็ไร้ความรู้สึก ไม่มีความสุข เย่อหยิ่งยโส ไม่เต็มใจมองมุมอื่น ดื้อรั้น
ธาตุน้ำ (9,0) มีความฉลาด คิดเร็ว เต็มไปด้วยแนวคิดต่าง ๆ ชอบควบคุม แต่ก็มักพลั้งเผลอ ไร้แก่สาร สับสน และขี้ขลาด

อุปนิสัยและบุคลิกภาพของธาตุต่าง ๆ ทำให้เข้าใจตัวเองและคนอื่น ๆ แต่การแปลความหมายเช่นนี้เพียงอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ ต้องพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ประกอบไปด้วยเพื่อจะได้มองเห็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้น รวมทั้งพลังงานที่อยุ่ในแต่ละธาตุ ซึ่งมีอิทธิพลสำคัญต่อรูปโฉมภายนอกของผู้มีธาตุข้างต้นเป็นธาตุประจำตัว ดังนี้
ธาตุไม้ (1,2) ถ้าไม่มีต้นไม้ ก็ไม่มีไม้ให้ใช้ ต้นไม้เชื่อมดยงดินกับฟ้า และเหนี่ยวนำพลังงานจักรวาลของโลก ดังนั้นหยินและหยางซึ่งเป็นพลังงานหลักสองอย่างจึงเชื่อโยงเป็นหนึ่งเดียวกันด้วย ธาตุไม้ส่งผ่านพลังงานนี้สู่ธาตุอื่น ๆ และทุกสิ่งทุกอย่างที่มีชีวิต หมายถึง คนธาตุไม้จะมีลักษณะเพรียวบาง เดินตัวตรง ข้อต่าง ๆ เต็มไปด้วยพละกำลัง กระดูกไม่ปูดโปนผ่านผิวหนังออกมา
ธาตุไฟ (3,4) ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนถูกไฟเผาให้มอดไหม้ได้ทั้งสิ้น อย่างไรก็ตามไฟไม่สามารถลุกไหม้ตัวมันเองได้ ทั้งก็ไม่สามารถหล่อเลี้ยงตัวมันเอง หมายถึง คนธาตุไม้จะมีลักษณะแห้งและผอม โหนกแก้มสูง มองเห็นกระดูกปูดโปนผ่านผิวหนังได้
ธาตุดิน (5,6) ดินรองรับทุกสิ่งทุกอย่างที่มีชีวิต ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างดำรงอยู่ได้ และวันหนึ่งก็จะดูดเอาพลังงานของสิ่งที่มีชีวิตกลับมา หมายถึง คนธาตุดินจะมีลักษณะที่เปี่ยมไปด้วยพละกำลัง แขนท่อนบนและต้นขาเป็นมัดกล้าม มีแผ่นหลังที่กว้างและแข็งแรง
ธาตุทอง (7,8) โลหะทั้งหลายล้วนซุกซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่ง เป็นวัสดุหยาบ หนัก และเป็นประกาย หมายถึง คนธาตุทองจะมีลักษณะตัวกว้างและสูง ดูเหมือนตัวใหญ่แต่ไม่อ้วน มีกระดูกใหญ่
ธาตุน้ำ (9,0) น้ำแทนการหมุนเวียนที่สมบุรณ์แบบของระบบ อันได้แก่ ทะเล เมฆ ฝน แม่น้ำ น้ำไม่ค่อยแยกขาดจากสิ่งอื่น ๆ และมักอยู่ร่วมกันในปริมาณมาก ๆ หมายถึง คนธาตุน้ำจะมีลักษณะตัวกลม ท้องมักป่อง หลังไม่ตรง คลำไม่เจอกระดูกเพราะมีเนื้อมาก